
ปัญหาลักษณะของ แคมเล็ก หรือปีกผีเสื้อ (Labia Minora) ที่ยื่นออกมามากหรือมีรูปทรงไม่สมมาตรอาจส่งผลต่อความมั่นใจในร่างกายและอาจก่อให้เกิดอาการไม่สบายตัวในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุ วิธีดูแล และทางเลือกการรักษาทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด พร้อมข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งวิชาการที่น่าเชื่อถือ
สาเหตุที่แคมเล็กยื่นหรือมีลักษณะไม่สมมาตร
แคมเล็ก (Labia Minora) มีความหลากหลายทางรูปร่างและขนาดตามธรรมชาติ แต่ปัจจัยต่อไปนี้อาจทำให้ยื่นออกมาหรือดูไม่เรียบร้อย :
- พันธุกรรม ลักษณะของแคมเล็กถูกกำหนดโดยพันธุกรรม (Rouzier et al., 2000)
- การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่น ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน (Lloyd et al., 2005)
- การคลอดบุตร อาจทำให้เนื้อเยื่อยืดหรือหย่อนได้
- อายุที่เพิ่มขึ้น การสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว
- การเสียดสีบ่อยๆ เช่น จากกีฬาขี่จักรยานหรือการสวมกางเกงรัดแน่น
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากแคมเล็กยื่น
ความไม่สบายตัวโดยเฉพาะเมื่อสวมกางเกงรัดรูปหรือชุดชั้นใน การระคายเคืองหรือการเสียดสี ทำให้เกิดอาการคันหรือปวด ความยากในการทำความสะอาดเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ความอับชื้น อาจนำไปสู่เชื้อราแคมหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ความไม่มั่นใจ ในการมีเพศสัมพันธ์หรือสวมชุดว่ายน้ำ
วิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- การใช้ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์
- - ช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้น
- - ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคือง
- เลเซอร์กระชับ (Laser Therapy)
- - CO2 เลเซอร์หรือเลเซอร์ Erbium YAG ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น (Gaviria et al., 2018)
- - เหมาะสำหรับกรณีที่แคมเล็กหย่อนเล็กน้อย
- การบำบัดด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency)
- - ใช้ความร้อนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบตึงขึ้น
- - ผลข้างเคียงน้อยกว่าการผ่าตัด (Alinsod, 2016)
- การปรับพฤติกรรม
- - เลือกสวมกางเกงผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศดี
- - หลีกเลี่ยงการขี่จักรยานหรือออกกำลังกายที่เสียดสีมากเกินไป
ทางเลือกการผ่าตัด (Labiaplasty)
- หากการรักษาแบบไม่ผ่าตัดไม่ได้ผลหรือมีอาการรุนแรง การผ่าตัดตกแต่งแคมเล็ก (Labiaplasty) เป็นทางเลือกที่ได้ผลถาวร โดยสตรีแต่ละท่านจะต้องมีความรู้สึกก่อนว่าแคมเล็กเป็นปัญหา เป็นส่วนเกิน ต้องการนำออก รู้สึกเคือง ไม่สวยงาม คู่นอนบ่นว่ายื่นไม่สวย ไม่มั่นใจ
- กรณีถ้าแคมยื่นแต่คนไข้หรือสตรีท่านนั้นรู้สึกว่าปกติดี ไม่มีปัญหา ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดตกแต่ง
- โดยสตรีที่มีแคมเล็กที่ยื่นมากและต้องการตกแต่ง ต้องได้รับการประเมินก่อนเสมอ ว่ามีหนังหุ้มส่วนเกิน (clitoral Hood) ร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากถ้ามีหนังหุ้มส่วนเกินปริมาณมากแล้วไม่นำออกไปพร้อมกันอาจทำให้เกิดความไม่สมมาตร ไม่สวยงามได้
1. เทคนิคการตัดตรง (Trim Technique)
- ตัดส่วนที่ยื่นออกมาเป็นเส้นตรง นิยมมากที่สุด
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีแคมเล็กยื่นมาก
- พักฟื้นประมาณ **1-2 สัปดาห์** (Goodman et al., 2010)
2. เทคนิคแบบรักษาขอบ (Edge Technique หรือ Wedge Resection)
- ตัดเป็นรูปลิ่มเพื่อคงขอบธรรมชาติของแคมเล็ก มีโอกาสต้องมาผ่าตัดอีก เนื่องจากอายุที่มากขึ้น มีโอกาสยื่นออกมาได้อีกเล็กน้อย
- ลดความเสี่ยงแผลเป็นและให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมากขึ้น (Alter, 2008)
3. กรณีมีหนังหุ้มส่วนเกินปริมาณมาก ควรตกแต่งหนังหุ้มร่วมด้วยเสมอ (Clitoral Hood Reduction) โดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทางจะทำการประเมินและแจ้งก่อนทำหัตถการว่าควรทำหรือไม่
ขั้นตอนการผ่าตัดและพักฟื้น
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษา
- เตรียมตัวก่อนผ่าตัด งดสูบบุหรี่และยาบางชนิด
- การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ส่วนใหญ่ใช้ยาชาเฉพาะที่)
- พักฟื้น
- 2-3 วันแรกควรพักผ่อนเต็มที่
- งดเพศสัมพันธ์ 6 -8 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำหรือออกกำลังกายหนัก
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
ปัจจุบันราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำว่า หลักฐานการศึกษาวิจัยเกี่ยงกับการตกแต่งทางนรีเวชยังมีจำกัด ทำให้ไม่มีผลการศึกษาในระยะยาว สตรีที่ต้องการตกแต่งทางนรีเวชควรได้รับข้อมูลถึงข้อดีข้อเสีย และความเสี่ยงของการผ่าตัด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เช่น
- โอกาสในการติดเชื้อ การเสียเลือด ควรดูแลแผลตามคำแนะนำแพทย์
- โอกาสแผลเป็น อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณี เช่นการเสียดสีบริเวณแผลมากเกินไปหลังผ่าตัดในช่วง 1-2 ปีแรก เป็นต้น
- โอกาสเกิดความรู้สึกเปลี่ยนไป อาจมีอาการชาหรือไวต่อสัมผัส โอกาสชาน้อยหรือมากขึ้นกับเทคนิคการผ่าตัด โดยอาการชา เกิดขึ้นได้และจะค่อยๆดีขึ้นใน 6-12 เดือน
- ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตาม ควรเลือกศัลยแพทย์ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์
สรุป
หากแคมเล็กที่ยื่นออกมาก่อให้เกิดความไม่สบายตัวหรือความไม่มั่นใจ มีทั้ง วิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัด (เลเซอร์, คลื่นวิทยุ) และ การผ่าตัด (Labiaplasty) การปรึกษาสูตินรีแพทย์เฉพาะทางจะช่วยเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
References
- Alter, G. J. (2008). *Aesthetic labia minora and clitoral hood reduction using extended central wedge resection*. Plastic and Reconstructive Surgery, 122(6), 1780-1789.
- Alinsod, R. M. (2016). *Transcutaneous temperature-controlled radiofrequency for vulvovaginal laxity*. Aesthetic Surgery Journal, 36(1), NP23-NP29.
- Gaviria, J. E., et al. (2018). *Fractional CO2 laser for the treatment of vulvovaginal atrophy*. Lasers in Medical Science, 33(2), 317-323.
- Goodman, M. P., et al. (2010). *Female genital cosmetic and plastic surgery: a review*. Journal of Sexual Medicine, 7(4), 1565-1577.
- Lloyd, J., et al. (2005). *Female genital appearance: "normality" unfolds*. BJOG: An International Journal of Obstetrics & Gynaecology, 112(5), 643-646.
- Rouzier, R., et al. (2000). *Hypertrophy of labia minora: experience with 163 reductions*. American Journal of Obstetrics and Gynecology, 182(1), 35-40.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และ นัดหมายแพทย์ได้ที่
คลินิกผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
แผนกสุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น
โทร. 043-042787
เขียนบทความโดย
นพ.สิทธิพงศ์ ถวิลการ
ชำนาญพิเศษ: สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา (Obstetrics and Gynecology)
เฉพาะทาง: การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช (Gynecologic Endoscopy)